แพทยศาสตร์ ศิริราชฯ
รอบที่ 1 Portfolio โครงการโอลิมปิกวิชาการ
แนะนำตัว
นางสาว วรินทร จงเกียรติกาญจน์
ชื่อเล่น เอม โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา รุ่นที่ 82 ห้อง gift เลข รุ่นที่ 17
ผลงานที่ภาคภูมิใจ
เอมผ่านการอบรมค่าย สสวท เคมี หรือคัดตัวแทนประเทศไทย ครั้งที่ 1
ได้รางวัลเหรียญเงินการแข่งขัน เคมีโอลิมปิกระดับชาติ หรือว่า TCHO ครั้งที่ 16
ได้ที่ 1 ของประเทศของการสอบเข้า สอวน เคมี และเป็นคนเดียวในประเทศที่สอบได้คะแนนเต็มข้อเขียนด้วยค่ะ
ได้เหรียญทองและได้อันดับที่ 4 ของโลก การแข่งขัน Copernicus Olympiad
งานอดิเรกอื่นๆ
มีการประกวดนางงามนิดหน่อยค่ะ ตอนนี้ได้ท็อป 40 Miss Teen Thailand 2019 ค่ะ
เหตุผลที่อยากเป็นหมอ
ตอน ป.6 ค่ะ ตรวจพบซีสในรังไข่ มากกว่านั้นค่ะ คือการแพทย์ในตอนนั้น ยังไม่สามารถชี้ได้ว่ามันคือเนื้อดีหรือว่าเนื้อร้าย ถ้ามันเป็นเนื้อร้ายและเราแค่เลาะมันออก มะเร็งมันจะลามค่ะ ทําให้เอมอาจจะต้องตัดมดลูกเอมทิ้ง ตอนนั้น เอมก็รู้สึกว่า ทําไมเอมถึงโชคร้าย ถ้าเราได้ช่วยเด็กผู้หญิงเหล่านี้ เราจะให้กําลังใจเค้า…เราเข้าใจนะ เพราะว่าเราเคยผ่านมาแล้ว ^^
ตอนนี้สอบติดที่ไหนแล้ว??
สอบติดคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล รอบที่ 1 โครงการโอลิมปิกวิชาการ แล้วก็คณะทันตแพทย์ จุฬาฯ รอบที่ 1 โครงการโอลิมปิกวิชาการค่ะ
สอบติดโครงการอะไร??
รอบที่ 1 หรือว่ารอบโครงการ Portfolio ค่ะ
รอบที่ 1 จะเป็นรอบที่ให้เด็กที่มีผลงานด้านวิชาการ หรือว่าทางแต่ละด้านที่มหาลัยต้องการนะคะ ได้ยื่น portfolio ของตัวเอง เพื่อให้มหาลัยพิจารณาเราเข้าไป ซึ่งจะแตกต่างจากรอบที่ 3 เพราะว่ารอบที่ 3 ก็คือจะใช้คะแนนและการสอบพร้อมกับเด็กทั่วประเทศค่ะ แต่รอบนี้จะมี requirement คะแนนบางอย่างที่ไม่เหมือนกันค่ะ อย่างของเอม เอมจะเข้าโครงการโอลิมปิกวิชาการ เอมจะต้องได้ สอวน. ให้ไปถึงขั้นที่กําหนดเอาไว้ค่ะ ถ้าเป็นโครงการของโอลิมปิกวิชาการ ขั้นต่ําเลย คือจะต้องได้เหรียญทองหรือเหรียญเงินการแข่งขันอะไรก็ได้ในระดับชาติค่ะ ถ้าคุณไม่ได้เหรียญทองหรือเหรียญเงิน คุณอาจจะต้องผ่านการอบรมค่าย สสวท หรือค่ายคัดผู้แทนประเทศวิชาอะไรก็ได้ค่ะ
รอบ 1 เป็นการสอบแบบไหน??
เป็นการสัมภาษณ์แบบ MMI ค่ะ คือจะเป็นสถานี คล้ายๆแล็ปกริ๊งเลยค่ะ ศิริราชจะมี 18 สถานี สถานีละ 8 นาทีค่ะ แต่ละด่านเขาจะมีงานให้ทํา มีคําถามให้ตอบ ซึ่งเป็นการวัดครบทุกด้านเลยค่ะ IQ EQ และ วัดความรู้ทางจริยธรรมทางการแพทย์ ซึ่งโชคดีมากๆเลยค่ะ ที่เอมได้ เรียนจริยธรรมทางการแพทย์กับที่ทีมหมอแผน ก็เลยตอบได้โดยไม่ลังเลเลยค่ะ จริยธรรมทางการแพทย์เนี่ยต้องมาอยู่แล้วค่ะ 🙂
เรียนจริยธรรม ช่วยในการสัมภาษณ์ยังไงบ้าง??
ถ้าเรียน เราจะมีหลักการในการตอบ เราจะรู้ว่าแพทย์ที่ดีเขาควรเป็นยังไง ควรมีตรรกะแบบไหน
พอเอมได้เรียนแล้ว ตอนที่อาจารย์เขายิงคําถามมาค่ะ คือเอมรู้สึกดีใจมากเลยนะคะ คือเอมสามารถเรียบเรียงหลักได้เลยค่ะว่า อย่างแรกที่เราต้องคิดคือ เอมต้องเอาเรื่องหลักจริยธรรมทางการแพทย์มาใช้ในการตอบ ซึ่งมันทําให้เราสามารถตอบได้ยาวมากขึ้น ดูไม่แถ เพราะเราตอบอย่างมีหลักการค่ะ เอมรู้สึกดีมากเลยค่ะ คิดถูกที่เรียนจริยธรรมก่อนจะไปสัมภาษณ์ค่ะ
แชร์เทคนิคเตรียมตัวให้น้องๆ ที่อยากเข้ารอบที่ 1
ถ้าอยากได้รอบ 1 นะคะ เน้นอยากเข้าแพทย์อินเตอร์ น้องก็ต้องเข้าไปดูในประกาศของมหาวิทยาลัยนั้นๆว่า เขาต้องคะแนนอะไรบ้าง ใช้คะแนนเท่าไหร่ยังไง? แล้วก็ต้องสอบให้ได้ตามคะแนนที่กําหนด แต่ถ้าอย่างเข้าโครงการโอลิมปิกวิชาการ แต่ละมหาลัยก็จะมีกําหนดไว้เหมือนกันค่ะ
ของแพทย์ศาสตร์ ศิริราชพยาบาล หรือว่าของทันตะจุฬาฯ จะต้องการเด็กที่สอบได้เหรียญทองหรือเหรียญเงินการแข่งขันโอลิมปิกระดับชาติหรือไม่ก็ผ่านการอบรมค่าย สสวท วิชาอะไรก็ได้ค่ายหนึ่งค่ะ
เราก็ควรจะไต่ระดับให้ได้ถึง requirement นั้นๆ ถ้าน้องๆอยากเข้าแพทย์ และมากกว่านั้นคือการเก็บ Port ค่ะ
เพราะว่ารอบ portfolio เนี่ยคนเก่งอย่างเดียวไม่ได้นะคะ เขาต้องการคนเก่งหลากหลายด้าน อย่างเช่นเอมน่ะค่ะ จะทํา ทั้งงานวิชาการ จิตอาสา และก็ด้านวงการบันเทิง รวมถึงภาวะการเป็นผู้นํา ด้วยค่ะ ที่อยากบอกก็คือ Port ต้องหลากหลายนะคะ อย่าเก่งเพียงวิชาการอย่างเดียว คือมันก็มีมาแล้วค่ะ ที่เก่งแค่วิชาการแต่ไม่มีด้านอื่นเลย ก็ไม่ติดเหมือนกันค่ะ
อย่างที่บอกไปว่า รอบที่ 1 เนี่ย มันไม่แน่นอนเลยค่ะ เราไม่รู้เลยว่าอาจารย์ที่คัดเลือกเราเขาจะชอบเรามั้ย?? เราจะถูกชะตากับเขาหรือเปล่า ทุกคนที่สอบรอบ 1 ก็จะมีการเตรียมตัวสอบรอบ 3 เอาไว้ด้วย
ซึ่งเอมมีการเตรียมตัวแบบนี้ค่ะ ก็คือ ในตอนม.4 เอมจะเก็บเนื้อหาของ ม.5-ม.6 เท่าที่ได้ เอมจะเก็บวิชาที่เอมถนัดที่สุดก่อนค่ะ อย่างเอมเป็นคนที่ชอบวิชาเคมีมาก แล้วเอมอยู่ค่ายเคมีมา ซึ่งเคมีก็สอนจนจบม.6 ไปแล้ว ก็คือม.4 เอมจะจบม.6 ของวิชาเคมีไปเรียบร้อยแล้ว แต่ในวิชาอื่นๆเนี่ย เอมก็พยายามเก็บไปเรื่อยๆค่ะ อย่างเช่น ฟิสิกส์กับชีวะ ก็คือเอมจะเก็บของม.5 ไปด้วยเลยค่ะ
ในส่วนของม.5 เอมจะทบทวนเนื้อหาให้จบ ม.6 เลยค่ะ พูดง่ายๆคือเอมจะเก็บเนื้อหาจนถึง ม.6 ไว้ในตั้งตั้แต่ม.5 ค่ะ
แล้วก็พอถึงช่วงเวลาม.6 ใช่ไหมคะ แน่นอนค่ะเรียนมาแล้วก็ต้องมีลืม ม.6 ช่วงแรก เอมจะทบทวนเนื้อหาทั้งหมดเลย แล้วค่อยเริ่มตะลุยโจทย์ จะเริ่มเข้าเรียนพิเศษเกี่ยวกับการตะลุยโจทย์ให้หนักสุดๆเลยค่ะ เพื่อความแม่นยํา ของเราเองค่ะ
ฝากกําลังใจถึงน้องๆและเพื่อนๆ
เอมเข้าใจเลยค่ะว่า การที่อยากเป็นหมอ การที่อยากสอบติดหมอ เป็นเรื่องยาก เพราะว่าเราอยู่ในประเทศที่มีการแข่งขันสูงมากค่ะ
เอมเข้าใจในความเครียดที่ต้องอ่านหนังสือ เพื่อให้ตัวเองได้ในคณะที่หวังไว้นะคะ ก็อยากบอกทุกคนว่า ถ้าเหนื่อยก็พักได้นะคะ แต่ว่าอย่าลืมวางแผนให้ดีที่สุดค่ะ เริ่มอ่านตั้งแต่เนิ่นๆไว้ค่ะ อย่าพยายามแบบ ให้ไฟมันลนก้นแล้ว ถึงจะอ่านอะไรอย่างนี้อ่ะค่ะ แล้วก็อยากให้ทุกคน สู้ๆเลยค่ะ คือเอมเข้าใจเลย ว่าการอ่านหนังสือเป็นอะไรที่เครียดมากค่ะ คือ การอ่านหนังสือสอบเข้าหมออ่ะค่ะ เค้าจะเครียดไม่รู้ตัวค่ะ เค้าจะบอกว่าเนี่ย เค้าไม่ได้เครียดเลย แต่ว่าเค้าเครียดนะคะ คือเอมก็คิดเหมือนกันว่าเอมไม่เครียดเลย แต่ว่าพอเอมผ่านรอบ 1 มานะคะ เอมถึงรู้เลยว่า ที่เอมบอกไม่เครียดมาตลอด คือเอมเครียด TT แต่เอมไม่รู้ตัว ซึ่งหลังจากที่สอบติดแล้วคือเราจะแบบโล่งมาก รู้สึกว่าแบบ เห้ย เราถึงแล้วนะ มันโล่งแบบปลดปล่อยเลยนะคะ ก็อยากให้ทุกคนได้มีโมเม้นต์นี้เหมือนกันค่ะ
โมเม้นต์สอบติดแล้ว แล้วก็ความรู้สึกโล่งมาก อะไรประมาณนี้ค่ะ สู้ๆนะคะ 🙂
สามารถติดตามได้ช่องทางไหนบ้าง
ตอนนี้เองรับสอนวิชาเคมีค่ะ ทั้งม.ปลาย IJSO สอวน. ทุนรัฐบาลญี่ปุ่นเอมก็รับสอนนะคะ เพราะว่าเอมก็ได้ทุนรัฐบาลญี่ปุ่นเหมือนกัน
ติดต่อเรียนเคมีกับเอมได้เลยค่ะ ติดต่อมาได้ที่ Line/IG : aimwj ค่า